คู่มือซื้อบ้านในไทยปี 2568: ขั้นตอน กฎหมาย และสิ่งที่ชาวต่างชาติต้องรู้

เจาะลึกวิธีการถือครองอสังหาริมทรัพย์อย่างปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุดสำหรับปีนี้

1 นาทีอ่าน
5 ครั้งที่ดู
คู่มือซื้อบ้านในไทยปี 2568: ขั้นตอน กฎหมาย และสิ่งที่ชาวต่างชาติต้องรู้

การเป็นเจ้าของบ้านในประเทศไทยเป็นเป้าหมายยอดนิยมสำหรับทั้งผู้อยู่อาศัยระยะยาวและนักลงทุน ในปี 2568 นี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงมีความน่าสนใจด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพอย่างกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่

กฎหมายการถือครองสำหรับชาวต่างชาติ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ชาวต่างชาติไม่สามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้โดยตรง แต่มีทางเลือกทางกฎหมายที่มั่นคงดังนี้:

  1. การเช่าระยะยาว (Leasehold): ทำสัญญาเช่า 30 ปี และจดทะเบียนที่กรมที่ดิน ซึ่งสามารถระบุเงื่อนไขการต่ออายุได้ (30+30+30 ปี)

  2. การซื้ออาคาร (Building Ownership): แม้จะถือครองที่ดินไม่ได้ แต่ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของ "ตัวอาคาร" ในชื่อตนเองได้ 100%

  3. การถือครองผ่านบริษัท (Thai Company): สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจในไทย สามารถใช้บริษัทจำกัดถือครองได้ แต่ต้องเป็นธุรกิจที่มีการดำเนินงานจริง ไม่ใช่บริษัทนอมินี

ขั้นตอนการซื้อที่สำคัญ

  • ตรวจสอบสถานะ (Due Diligence): สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าติดภาระจำยอมหรือมีการฟ้องร้องหรือไม่

  • การโอนเงิน (FET Form): หากซื้อคอนโดมิเนียม ต้องมีหลักฐานการโอนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange Transaction Form) เพื่อใช้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์

  • ค่าธรรมเนียมและภาษี: ปกติค่าธรรมเนียมการโอน 2% มักแบ่งจ่ายคนละหมึ่งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และอาจมีภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% หากถือครองไม่ถึง 5 ปี

บทความที่เกี่ยวข้อง